แบล็คแจ็ค PRAGMATIC PLAY เกมใหม่ที่เราสรรหาสิ่งที่ดีที่สุดเข้ามาอยู่ในคลังเกมของเรา Pragmatic Play ผู้ให้บริการเนื้อหาชั้นนำในอุตสาหกรรมเกมได้เปิดตัว Blackjack คาสิโนสดล่าสุด Blackjack ถ่ายทอดจากสตูดิโอที่ทันสมัยของ PRAGMATIC PLAY ช่วยให้ผู้เล่นสามารถเล่นได้ไม่จำกัด จำนวนเข้าร่วมการแข่งขันได้ตลอดเวลา อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายและเอฟเฟกต์ภาพที่สวยงามจับคู่กันอย่างเหมาะสมเพื่อมอบประสบการณ์คาสิโนสดที่เหนือกว่าด้วยตัวเกมที่ผู้เล่นทุกคนสามารถเล่นได้แบบตัวต่อตัว และอัดแน่นไปด้วยคุณสมบัติใหม่ๆ Blackjack มอบโอกาสให้ผู้เล่นได้รับเงินเดิมพันมากถึง 2,000 เท่า และมีการเดิมพันข้างสี่ประเภทที่แตกต่างกันสำหรับผู้เล่นที่ไม่ซ้ำกันรวมถึง ‘Crazy 7’ ที่ผู้เล่นเดิมพันความเป็นไปได้ที่จะมีตอง 7 ในไพ่สามใบแรกและ ‘Bust Bonus’ ซึ่งผู้เล่นสามารถ เดิมพันได้เมื่อเจ้ามือได้รับไพ่และผู้เล่นเกิน 21
ประวัติแบล็คแจ็ค PRAGMATIC PLAY
ต้นกำเนิดของเกมไพ่แบล็คแจ็ค PRAGMATIC PLAY นั้น ไม่ปรากฏหลักฐานที่ชัดเจน แต่มีแนวโน้มว่ามีที่มาที่ไปของการวางเดิมพันมาจากประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นเกมการเดิมพันที่ชื่อว่า vingt-et-un (แปลตรงตัวได้ว่า 20 และ 1 หรือ 21 นั่นเอง) ลักษณะของเกมนี้จะมีการแจกไพ่ให้กับผู้เล่นที่คล้ายกันกับกติกาของแบล็คแจ็คในปัจจุบัน ทั้งนี้วัตถุประสงค์ของเกมคือ การลุ้นผลรวมของแต้มในมือให้มากที่สุด แต่ต้องไม่เกิน 21 แต้ม นอกจากนี้ยังพบข้อมูลสนับสนุนของเกมที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ไม่ว่าจะเป็นเกมไพ่ของชาวอิตาเลียน ที่จะวัดผลแพ้ชนะจากแต้มที่รวมกันได้ 7.5 แต้ม หากแต้มในมือเกินจากนี้ จะถือว่าแพ้ทันที ทั้งนี้ยังมีเกมไพ่ 31 แต้ม ของชาวสเปนที่อาจถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนารูปแบบการเล่นแบล็คแจ็ค PRAGMATIC PLAY ที่เราเห็นในยุคปัจจุบัน
เกม ไพ่ 21 แต้มนี้ ถูกเปิดตัวอย่างกว้างขวางในประเทศอเมริกา ราวปี ค.ศ. 1800 แต่ในช่วงแรกนั้นยังไม่ได้รับความนิยมในคาสิโนมากนัก ถึงขั้นที่มีการเสนอการจ่ายผลตอบแทน 10 ต่อ 1 หากผู้เข้าร่วมเดิมพันสามารถที่จะชนะด้วยแต้มแบล็คแจ็คในไพ่ 2 ใบแรก เพื่อดึงดูดความสนใจให้ผู้เล่นเข้ามาเล่นเกมรูปแบบนี้เพิ่มมากขึ้น จนกระทั่งเริ่มได้รับความนิยมและถูกตั้งชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า แบล็คแจ็ค PRAGMATIC PLAY จากนั้นมีการนำรูปแบบของ การเล่นแบล็คแจ็ค เข้าไปใช้กับการเล่นพนันในเนวาด้า ช่วงปี ค.ศ. 1931 ซึ่งถูกระบุให้เป็นเกมพนันที่ถูกกฎหมาย มีให้ได้เล่นกันในบ่อนคาสิโนลาสเวกัส และนั่นถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการเปิดตัว แบล็คแจ็ค PRAGMATIC PLAY ในคาสิโนออนไลน์กันอย่างเต็มรูปแบบ ในเวลาต่อมาแบล็คแจ็ค ถูกระบุให้เป็นรูปแบบพื้นฐานของการเล่นเกมไพ่ชนิดนี้ เมื่อได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น จึงมีการนำมาเป็นรูปแบบของเกมคาสิโนออนไลน์
ประเภทของแบล็คแจ็ค
แบล็คแจ็คแบบคลาสสิค หรือแบล็คแจ็คอเมริกัน
เกมแบล็คแจ็คประเภทนี้ได้รับความนิยมมากที่สุดเป็นอันดับแรก และคาสิโนออนไลน์ทุกแห่งรับการเดิมพันด้วยเงินจริงพร้อมโบนัสให้เลือกใช้มากมาย ถ้าพูดถึงเรื่องกฎของเกมนั้นอาจจะมีข้อแตกต่างเล็กน้อยขึ้นอยู่กับแต่ละดีลเลอร์ว่าจะใช้ไพ่จำนวนกี่สำรับ หรืออื่น ๆ แต่กฎหลัก ๆ ที่เป็นสากลยังยึดไว้เช่นเดิม
แบล็คแจ็คยุโรป
เกมแบล็คแจ็คยุโรปนั้นมีกฎหลายประการเหมือนกับแบล็คแจ็คแบบคลาสสิคเช่น การแยกไพ่ได้ครั้งเดียวและสามารถเพิ่มเพียงสองเท่าของ 9, 10 และ 11 เพียงเท่านั้น ซึ่งเป้าหมายของเกมคือการที่ไพ่บนมือมีจำนวนใกล้เคียงกับ 21 ห้ามสูงกว่านี้ และที่สำคัญไพ่ Ace สามารถนับได้ 2 แบบคือจำนวน 1 หรือ 11
แบล็คแจ็คแบบออนไลน์
เกมแบล็คแจ็คประเภทนี้นั้นได้รับความนิยมจากผู้เล่นมากมายเพราะมันให้ประสบการณ์ที่แตกต่างจากแบบทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการเลือกห้องเพื่อเล่นเกมแบล็คแจ็ค การเปลี่ยนห้องหากเปลี่ยนใจหรือหาห้องใหม่เพื่อดึงดวงกลับมา การสนทนากับผู้เล่นในห้องเดียวกัน รวมไปถึงการสนทนาสดกับดีลเลอร์โดยตรง ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่เมื่อเทียบกับยุคที่เทคโนโลยียังเข้าไม่ถึง
แบล็คแจ็คสวิทช์
เกมแบล็คแจ็คแบบ Switch เป็นแบบน้องใหม่ที่ครองใจผู้เล่นหลายคนมาเมื่อไม่นานนี้เพราะผู้เล่นสามารถถือไพ่สองมือได้นี่คือเหตุผลหลักที่ทำให้เกมแบล็คแจ็ค Switch แตกต่างจากประเภทอื่น ทั้งนี้กฎพื้นฐานอื่น ๆ ยังคงเหมือนเดิม
เหตุผลหลักที่ทำให้การเล่นแบล็คแจ็คออนไลน์ดีกว่าออฟไลน์นั้นคือความรวดเร็วและมีฟีเจอร์ใหม่ ๆ มาให้
ข้อแตกต่างระหว่าง ป๊อกเด้ง กับ แบล็คแจ็ค
แบล็คแจ็ค (Blackjack) เป็นเกมไพ่ที่นิยมเล่นกันทั่วโลก ถือเป็นเกมไพ่ที่นิยมเล่นในคาสิโนเป็นอันดับสองรองจากโป๊กเกอร์ กติกาการเล่นโดยพื้นฐานก็คือ ตอนเริ่มต้นจะได้รับไพ่คนละสองใบ ผู้เล่นต้องพยายามรวมแต้มไพ่ในมือให้ไม่เกิน21แต้ม หากเกินจะถือว่าตาย โดยผู้เล่นสามารถขอไพ่เพิ่มหรือหยุดแค่นั้นก็ได้ เมื่อผู้เล่นทั้งหมดบอกพอ ใครที่แต้มสูงใกล้เคียงกับเลข21 จะเป็นฝ่ายชนะ
กฎพิเศษ
-Aมีค่าเป็น1
– J Q Kมีค่าเป็น10
– หากผู้เล่นในมือมีJ Q Kอย่างละใบในมือ จะเรียกว่าแบล็คแจ็ค ซึ่งเป็นไพ่เหนือกว่า21แต้ม
ป๊อกเด้ง จากเท่าที่เคยฟังจากอาม่าที่ยังมีชีวิตอยู่ อีเล่าว่าสมัยก่อนตอนช่วงตรุษจีน จะมีการรวมกลุ่มกันเล่นป๊อกเด้งเพื่อความเป็นศิริมงคลแก่ชีวิต (แต่ไหงกลายมาเป็นการพนันได้ไม่รู้) เริ่มต้นผู้เล่นจะได้รับไพ่2ใบ และขอไพ่เพิ่ม1ใบได้เพียงหนึ่งครั้ง การแพ้ชนะโดยพื้นฐานก็คือ ใครได้ป๊อกแปด(8แต้ม)หรือป๊อกเก้า(9แต้ม) หรือใกล้เคียงกับป๊อก จะเป็นฝ่ายชนะ
กฎพิเศษ
– Aมีค่าเป็น1
– 10 J Q Kมีค่าเป็น0
– ป๊อกเก้า ชนะ ป๊อกแปด
– หากแต้มที่ได้มีค่าเป็นหลักสิบ ให้ตัดหลักสิบออกไป (เช่น ถ้ารวมได้10 เมื่อตัดหลักสิบออก ก็กลายเป็น 0)
– ไพ่ในมือดอกเดียวกัน2ใบ ถ้าแต้มชนะ เรียก “สองเด้ง”
– ไพ่ในมือดอกเดียวกัน3ใบ ถ้าแต้มชนะ เรียก “สามเด้ง”
– ไพ่ในมือ3ใบเลขเดียวกัน ถ้าแต้มชนะ เรียก “ตอง” (เหนือกว่าป๊อกแปด)
– ไพ่ในมือ3ใบดอกเดียวกันและเลขเดียวกัน ถ้าแต้มชนะ เรียก “เรียง” (เหนือกว่าป๊อกแปด)
– ไพ่ในมือ3ใบมีJ Q Kอย่างละใบ ถ้าแต้มชนะ เรียก “เซียน” (เหนือกว่าป๊อกแปด)
เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างป๊อกเด้งและแบล็คแจ็ค
ความยากง่าย : แบล็คแจ็คเล่นง่ายกว่าป๊อกเด้ง
ความเร็วในการเล่น : ป๊อกเด้งจบเกมไวกว่าแบล็คแจ็ค
การตัดสินใจ : แบล็คแจ็คต้องใช้กึ๋นและความกล้าในการเล่นมากกว่าปีอกเด้ง
ดวง : ป๊อกเด้งใช้ดวงในการเล่นมากกว่าแบล็คแจ็ค
กฎพิเศษ : ป๊อกเด้งมีกฎการแพ้ชนะเยอะแยะกว่าแบล็คแจ็ค
วิธีการเล่นแบล็คแจ็ค PRAGMATIC PLAY
วิธีการเล่นแบล็คแจ็ค จะมีเงื่อนไขดังต่อไปนี้
- ข้อกำหนดพื้นฐานที่เป็นมาตรฐานของการเล่นแบล็คแจ็คคือ จะต้องมีเจ้ามือ 1 คน และมีผู้เล่นไม่เกิน 7 คน ใช้ไพ่ในการเล่น ตั้งแต่ 4-8 สำรับ (แล้วแต่ข้อกำหนดของเจ้ามือ)
- เมื่อเริ่มเกม เจ้ามือจะทำการแจกไพ่ใบแรกให้กับผู้เล่นทุกคน ตามลำดับ และจะแจกไพ่ให้กับตัวเองเป็นลำดับสุดท้าย จากนั้นจะทำการแจกไพ่ใบที่ 2 ในลักษณะเดียวกัน โดยข้อกำหนดของลักษณะการวางไพ่ที่แจกให้ผู้เล่นทุกคนนั้นจะต้องคว่ำไพ่ ในขณะที่ไพ่ของเจ้ามือจะหงายขึ้นมา 1 ใบ แต่ในลักษณะของการเล่นแบล็คแจ็คออนไลน์ เราจะเห็นไพ่ของผู้เล่นทุกคนหงายขึ้นทุกใบ มีเฉพาะของเจ้ามือเท่านั้นที่เราจะเห็นไพ่เพียงแค่ใบเดียว
- หลังจากที่เราเห็นแต้มในมือของตัวเอง เราจะต้องตัดสินใจในการเดิมพันด้วยการเลือกวิธีการต่างๆ เช่น พอ หมอบ จั่วไพ่ แยกกอง หรือเพิ่มเงินเดิมพัน
- เมื่อผู้เล่นตัดสินใจ พอ หรือ ขอจั่วไพ่จนถึงระดับที่พอใจ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วศัพท์ของนักพนันมักจะเรียกว่า “อยู่” แต่จะต้องอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่เกิน 21 แต้ม (เกิน 21 แต้ม แพ้ทันที)
- จากนั้นจะทำการวัดผลกับไพ่ของเจ้ามือ ฝ่ายใดได้แต้มสูงกว่า (แต่จะต้องไม่เกิน 21 แต้ม) จะกลายเป็นผู้ชนะและได้รับเงินเดิมพัน 1 เท่าของเงินเดิมพันที่ลงไป แต่ในกรณีชนะด้วยแต้มแบล็คแจ็ค หรือ 21 แต้มจะได้รับผลตอบแทน 3 เท่าของเงินเดิมพัน
รูปแบบของการวางเดิมพัน แบล็คแจ็ค PRAGMATIC PLAY
1. ผู้เดิมพันสามารถที่จะเลือกเล่นได้มากกว่า 1 กอง
2. เมื่อเปิดไพ่แล้วเห็นแต้มของไพ่ทั้ง 2 ใบ จะมีสถานการณ์ของการตัดสินใจเดิมพันในลักษณะที่แตกต่างกันได้แก่
- ไพ่ 2 ใบแรกให้แต้มรวม 21 แต้ม จะให้ผลชนะในทันที
- ไพ่ 2 ใบแรกให้แต้ม 17 แต้มขึ้นไป แต่ไม่ถึง 21 แต้ม สถานการณ์แบบนี้ค่อนข้างได้เปรียบและผู้เดิมพันมักจะใช้คำสั่งอยู่ / พอ หรือ stand
- ไพ่ 2 ใบแรกได้แต้มต่ำกว่า 16 แต้ม จะต้องมีการขอจั่วไพ่ใบที่ 3 ซึ่งเจ้ามือจะทำการถามถึงความต้องการในการจั่วไพ่เพิ่มอีก 1 ใบตามลำดับจนครบรอบ ซึ่งถ้าแต้มในมือยังต่ำอยู่ สามารถที่จะขอไพ่ได้อย่างไม่จำกัด จนกว่าจะมีแต้มที่ใกล้เคียงกับ 21 แต้มมากที่สุด แต่ทั้งนี้จะต้องไม่เกิน 21 แต้ม
- ในกรณีที่ได้ไพ่ Ace 2 ใบ ซึ่งทำให้มีสถานการณ์ที่มีโอกาสได้ไพ่ใบที่ 3 และ 4 ซึ่งอาจได้ เท่ากับ 10 (10 , J , M , K ) เพิ่งจะทำให้ไพ่ในมือได้แต้มรวม 21 แต้ม หรือ แบล็คแจ็ค สถานการณ์แบบนี้ผู้เดิมพันสามารถที่จะแยกไพ่ออกเป็น 2 กองได้ ซึ่งจะต้องเพิ่มเงินเดิมพัน ในกองที่ 2 เข้าไปอีก
- ถ้าเห็นสถานการณ์ที่ค่อนข้างเป็นต่อเพราะมีแต้ม 2 ใบแรกในมือค่อนข้างสูง ผู้เดิมพันสามารถที่จะกดเพิ่มยอดเดิมพันขึ้นเป็น 2 เท่าได้อีกด้วย
- ถ้าไพ่ 2 ใบแรกให้แต้มที่ไม่น่าสนใจและเป็นแต้มไพ่ที่ลุ้นค่อนข้างยาก เพราะมีความเสี่ยงสูงที่ไพ่ใบที่ 3 เมื่อจั่วไพ่ออกมาแล้วอาจทำให้แต้มในมือของเราอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัยยิ่งขึ้น เราสามารถที่จะเลือกที่จะหมอบหรือหยุด เพื่อขอรับเงินเดิมพันคืนครึ่งหนึ่ง
- เมื่อมีการขอจั่วไพ่ใบที่ 3 เกิดขึ้นแล้วให้แต้มเกิน 21 แต้ม แต้มจะให้ผลแพ้เดิมพันทันที แต่ทั้งนี้ถ้าเจ้ามือเป็นผู้จั่วไพ่ได้เกิน 21 แต้ม เท่ากับว่าผู้เล่นทั้งหมดที่มีแต้มไม่ถึง 21 แต้มจะเป็นผู้ชนะทั้งหมด
3. การเลือกเดิมพันในลักษณะพิเศษ เช่น Insurance หรือแบบประกันภัย จะมีการคิดยอดเดิมพันครึ่งหนึ่งของเงินเดิมพันที่เราลงไปในครั้งแรก นั่นหมายความว่า ถ้าแต้ม 2 ใบแรกของเจ้ามือรวมกันได้ 21 แต้ม ผู้เดิมพันที่เลือกเล่นในรูปแบบประกันภัย จะได้รับกำไรครึ่งหนึ่งของเงินเดิมพัน แต่ถ้าแต้มของเจ้ามือให้ผลแพ้จะทำให้เราสูญเสียเงินเดิมพันทั้งหมดไป
4. การให้ผลชนะในลักษณะพิเศษ เช่น ชนะด้วยไพ่คู่ ทั้งแต้มเหมือน หรือเป็นลักษณะของไพ่คู่ผสม ลักษณะการเดิมพันในรูปแบบพิเศษนี้จะทำให้ผู้ร่วมกันได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้นกว่าปกติอีกด้วย
กฎแบล็คแจ็คทั่วไป
ก่อนดำดิ่งสู่ประเภทของแบล็คแจ็คที่มีให้บริการในคาสิโนออนไลน์ ผู้เล่นทุกคนควรทำความคุ้นเคยกับกฎแบล็คแจ็คดั้งเดิมแบบคลาสสิก ด้านหลังโต๊ะเจ้ามือแบล็คแจ็คเผชิญตำแหน่งการเล่น 5 ถึง 9 ตำแหน่ง และสำรับไพ่ 52 ใบ 1 ถึง 8 ใบจะถูกสับ ผู้เล่นที่มีเดิมพันอยู่หน้ากล่องเดิมพันเป็นผู้ควบคุมตำแหน่ง และเจ้ามือปรึกษาเขาในการเลือกเล่น คนอื่นๆ ‘เล่นอยู่เบื้องหลัง’ ผู้เล่นในเกมแบล็คแจ็คไม่ได้แข่งขันกันเอง ผู้เล่นแข่งขันกับเจ้ามือแทน
ดีลเลอร์แจกไพ่จากซ้ายไปขวา และแต่ละกล่องจะเริ่มต้นด้วยไพ่ 2 ใบที่มองเห็นได้ ในเกมที่ไพ่คว่ำ เจ้ามือได้รับไพ่ใบที่ 2 คว่ำหน้าลงซึ่งเขาดูแต่จะเปิดเผยก็ต่อเมื่อเขามีแบล็คแจ็ค เกมที่ไพ่คว่ำบางเกมใช้กระจกขนาดเล็กหรือเซ็นเซอร์ไฟฟ้าเพื่อดูไพ่คว่ำ เกมไพ่ไม่มีคว่ำเป็นที่นิยมในคาสิโนยุโรป
จุดประสงค์ของเกมคือการเอาชนะมือเจ้ามือโดยไม่ให้เกิน 21 หรือโดยหวังว่าเจ้ามือจะจับได้
ในตาของพวดเขา ผู้เล่นอาจ
- Hit (หยิบไพ่)
- Stand (จบตาโดยไม่รับไพ่)
- Double (เพิ่มเงินเดิมพันเป็นสองเท่า, หยิบไพ่ใบเดียว, และจบ)
- Split (ถ้าไพ่สองใบมีค่าเท่ากัน, แยกคู่เป็น 2 มือ)
- Surrender (ยอมเสียครึ่งเดิมพัน และถอนตัวออกจากเกม)
หน้าไพ่ (แจ็ค, ควีน, คิงส์) นับเป็น 10, ในขณะที่ aces อาจเป็น 1 หรือ 11 ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้เล่น หากยอดรวมเกิน 21 การเดิมพันทั้งหมดจะแพ้
หลังจากที่ผู้เล่นเล่นจบ เจ้ามือจะจั่วไพ่จนกว่าเขาจะมี 17 ใบขึ้นไป เจ้ามือไม่ได้รับอนุญาตให้ double, split หรือ surrender, และผู้เล่นทุกคนจะชนะหากเจ้ามือจับได้ รวม 21 ได้ในไพ่สองใบแรกเรียกว่าเนเชอรัลหรือแบล็คแจ็ค, และผู้เล่นจะชนะเว้นแต่เจ้ามือจะมีด้วย หากเป็นกรณีนี้ การเดิมพันจะถูกส่งคืน ซึ่งเรียกว่า “พุช” หรือ “เสมอ” คาสิโนบางแห่งบอกว่าแบล็คแจ็คมีอัตราต่อรอง 3-2 ซึ่งหมายความว่าผู้เล่นจะได้รับ 3 ดอลลาร์สำหรับทุกๆ 2 ดอลลาร์ที่เดิมพัน โปรดทราบว่าสามารถหาคาสิโนที่มีการจ่ายเงินน้อยกว่าได้เช่นกัน
การนับแต้ม
การนับแต้มจะคล้ายกับเกมไพ่อื่นๆ ต่างกันแค่ไพ่ A ที่นับได้ 2 แบบ
- ไพ่เลข ตั้งแต่ 2-10 นับแต้มตามเลขไพ่
- ไพ่ฝรั่ง J, Q, K นับ 10 แต้มเท่ากันทั้งหมด
- ไพ่ A หรือ Ace เป็นไพ่ที่ทำให้เกิด Natural Blackjack เพราะนับได้ 2 แบบ คือ จะนับ 11 หรือ 1 แต้มก็ได้ ตามแต่จะเป็นประโยชน์
การดำเนินเกม
ในเกมส์แบล็คแจ็ค เราจะเล่นสลับไปมากับเจ้ามือ 5 ขั้น ดังนี้
- เราวางเดิมพัน คือ ตอนเริ่มเกม เจ้ามือจะหยุดรอครู่หนึ่ง เพื่อให้เราลงเดิมพัน
- เจ้ามือแจกไพ่ คือ เจ้ามือจะแจกไพ่ฝั่งละ 2 ใบ และหงายแค่ 1 ใบฝั่งเจ้ามือ
- เราเล่นไพ่ในมือ คือ ถ้าไม่ได้ไพ่ Blackjack เราต้องเลือก อยู่ จั่ว สองเท่า แยก
- เจ้ามือเล่นไพ่ในมือ คือ เจ้ามือจะจั่วจนกว่าจะได้ 17 แต้ม หรือทะลุ 21 แต้ม
- วัดผลเดิมพัน ใครมีแต้มใกล้ 21 แต้มกว่า ชนะ หรือถ้าใครทะลุ 21 แต้ม แพ้
ทิ้งท้าย
เป็นไงกันบ้างครับ กับคำตอบที่ว่า แบล็คแจ็ค คือ อะไร และกติกา วิธีเล่น พร้อมทั้งรายละเอียดขั้นตอนการเดิมพันในคาสิโนออนไลน์ ที่ผมได้นำเสนอจบไปนั้น หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเพื่อนๆ ทุกคนที่อยากเข้ามาทำเงินจากเกม คาสิโนออนไลน์ นี้นะครับ สำหรับบทความนี้ ผมก็ขอจบไว้เพียงเท่านี้